วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

อักษรเบรลล์เพื่อคนตาบอด

อักษรเบรลล์เพื่อคนตาบอด


คนตาบอด เป็นอย่างไร

          ในทางการแพทย์ คนที่บกพร่องทางการมองเห็น (คนตาบอด) หมายถึง ผู้ที่มองไม่เห็น หรือ พอเห็นแสงแบบเลือนราง และมีความบกพร่องทางสายตาทั้งสองข้าง โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. ตาบอดสนิท หมายถึง คนที่ไม่สามารถมองเห็นได้เลย หรืออาจมองเห็นได้ไม่มากนัก ไม่สามารถใช้สายตาในการเรียน การสอน หรือทำกิจกรรมได้ ต้องใช้ประสาทสัมผัสอื่นแทนในการเรียนรู้
2. ตาบอดไม่สนิท หรือบอดเพียงบางส่วน สายตาเลือนราง หมายถึง มีความบกพร่องทางสายตา สามารถมองเห็นบ้าง แต่ไม่เท่าคนปกติ

สาเหตุของความบกพร่องทางการเห็น


การเกิดความบกพร่องทางการเห็น จนถึงตาขั้นบอด อาจมีสาเหตุใหญ่ๆ ดังต่อไปนี้
1. ความผิดปกติของดวงตา
เกิดจากความเสื่อมสภาพของกล้ามเนื้อตาเป็นเหตุให้ สายตาสั้น สายตายาว หรือมีปัญหาจากการปรับภาพที่เลนส์ในดวงตา เป็นต้น ความผิดปกติอาจเกิดจากอุบัติเหตุ การไม่ถนอมสายตาหรืออาจเกิดจากกรรมพันธุ์
2. ความผิดปกติของสายตา
เกิดจากโรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุต่างๆที่เป็นอันตรายต่อดวงตา จากฤทธิ์ยาบางประเภทตลอดจนการใช้ยาที่ผิด โรคบางประเภทที่ไม่สามารถป้องกันได้ เช่น เนื้องอกที่ตา โรคเหล่านี้อาจทำให้ตาบอดหรือมีความบกพร่องทางสายตาอย่างรุนแรง

คนตาบอด สามารถเดินทางไปไหนมาไหนเองได้หรือไม่??

โดยหลักการนั้น ต้องขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายประการ ยกตัวอย่างเช่น
- ทักษะในการทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม และการเคลื่อนไหว
- เทคนิคในการใช้ไม้เท้า หรืออุปกรณ์ช่วยในการเดินทางชนิดต่างๆ เป็นต้น

อักษรเบรลล์

เป็นอักษรสำหรับคนตาบอดที่เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการช่วยเหลือ ประดิษฐ์โดย หลุยส์ เบรลล์ (Louis Braille) ครูตาบอดชาวฝรั่งเศส ซึ่งอักษรเบรลล์จะมีลักษณะเป็นจุดนูนเล็กๆ ใน 1 ช่องประกอบด้วยจุด  6  ตำแหน่ง นำมาจัดสลับกันไปมาเป็นรหัสแทนอักษรตาดีหรือสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ โน้ตดนตรี ฯลฯ การเขียนจะใช้เครื่องมือเฉพาะเรียกว่า สเลต (Slate) และดินสอเรียกว่า (Stylus) การพิมพ์ใช้เครื่องพิมพ์เรียกว่า เบรลเลอร์ (Brailler) ใช้กับกระดาษหนา ขนาดกระดาษวาดรูป

   
        สเลต (Slate) , ดินสอ (Stylus) และกระดาษ                   เบรลเลอร์ (Brailler) 

  




การผลิตหนังสืออักษรเบรล์



การจัดทำหนังสืออักษรเบรลล์เพื่อมอบให้ผู้พิการทางสายตาได้อ่าน หรือศึกษานั้น มีความแตกต่างจากหนังสือทั่วไป ซึ่งหนังสืออักษรเบรลล์จะสามารถพิมพ์ได้เพียง 37 ตัวอักษร ต่อ หนึ่งบรรทัดเท่านั้น เวลาพิมพ์อักษรเบรลล์จะนับเป็นตัวๆไป แตกต่างจากหนังสือปกติที่สระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์สามารถทับซ้อนกันได้  

ขั้นตอนการจัดทำหนังสืออักษรเบรลล์ มีดังต่อไปนี้

1. ทำการสอบถามชื่อหนังสือที่จะพิมพ์กับทางศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอดก่อนว่าหนังสือเล่มนี้มีผู้พิมพ์ไปก่อนแล้วหรือไม่ สามารถสอบถามได้ทางเบอร์โทรศัพท์  02 - 9625818 - 9

2. เข้าไปพิมพ์ในโปรแกรม Microsoft office Word โดยผู้พิมพ์จะต้องพิมพ์รายละเอียดของหนังสือทุกตัวอักษรตั้งแต่หน้าปกจนจบเล่มโดยยกเว้นรูปไว้ และไม่ลืมที่จะพิมพ์ ย่อหน้าชื่อผู้แต่ง

3. เมื่อพิมพ์เสร็จเรียบร้อย ให้ทำการเซฟลงบนแผ่นซีดีแล้วจึงส่งไปรษณีย์ให้กับทางศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอด ที่อยู่ 78/2 หมู่ 1 ต. บางตลาด ซ. ติวานนท์-ปากเกร็ด 1 ถ. ติวานนท์ อ. ปากเกร็ด จ. นนทบุรี 11120

4. เมื่อทางศูนย์ฯได้รับแผ่นซีดีจากผู้พิมพ์แล้ว ก็จะมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯมาอ่านข้อมูลที่ได้รับทั้งหมดอีกครั้งและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทุกคำ ทุกหน้า
5. หากพบความผิดพลาดของข้อมูลในหนังสือ เจ้าหน้าที่ก็จะต้องการทำการแก้ไขข้อมูลก่อนและจัดพิมพ์ต่อไป
6. ในการพิมพ์เป็นอักษรเบรลล์นั้น เจ้าหน้าที่จะทำการแปลงข้อมูลที่โปรแกรม Thaibralle translate 2.00 
7. เมื่อสั่งตีพิมพ์เป็นหนังสืออักษรเบรลล์แล้วทางหน่วยงานจะทำการแจกจ่ายต่อไป

เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับ  หนังสืออักษรเบรลล์

                1. กระดาษ A4 หรือกระดาษทั่วไปที่ผู้บริจาค บริจาคให้ทางศูนย์นั้นไม่สามารถใช้ผลิตอักษรเบรลล์ได้ ทางศูนย์ฯจึงนำกระดาษเหล่านั้นไปขายเพื่อนำเงินที่ได้มาสั่งซื้อกระดาษสำหรับทำหนังสือเบรลล์
2. กระดาษที่ใช้ในการผลิตอักษรเบรลล์จะมีความหนา 50 แกรม
3. กระดาษที่ใช้ในการผลิตอักษรเบรลล์ เมื่อผ่านไปนานๆตัวอักษรเบรลล์จะยุบ
4. หนังสืออักษรเบรลล์ไม่นิยมทำเป็นรูปภาพ เนื่องจากต้องทำเป็นรูปนูนก่อนแล้วจึงนำไปอัดอีกครั้ง
5. หากหนังสือที่พิมพ์มีภาพประกอบ จะต้องบรรยายรายละเอียดตามภาพเป็นคำพูด
                6. ทางศูนย์เทคโนโลยีการศึกษาเพื่อคนตาบอดมีการผลิตหนังสือเรียนอักษรเบรลล์ส่งให้โรงเรียนด้วย
7. ในการแจกจ่ายหนังสือ จะแจกจ่ายได้ก็ต่อเมื่อมีผู้มาขอจึงจะพิมพ์แจกได้ โดยผู้ที่ต้องการหนังสือจะต้องโทรศัพท์มาขอพร้อมบอกชื่อหนังสือก่อน
8. ทางศูนย์ฯมีการบันทึกชื่อหนังสือไว้เพื่อความสะดวกในการหาว่ามีใครเคยพิมพ์ไปหรือไม่
9. ในการอ่านอักษรเบรลล์ ผู้พิการจะต้องเรียนเกี่ยวกับอักษรเบรลล์ก่อน
10. เวลาอ่านอักษรเบรลล์ผู้อ่านจะค่อยๆสัมผัสเพื่อให้เข้าใจภาษา
11. หลักในการจำอักษรเบรลล์ให้จำตัวที่คล้ายกันก่อน
12. ตัวเลขกับตัวอักษรภาษาอังกฤษ เหมือนกัน แต่ตัวเลขจะมีเครื่องหมายนำหน้าก่อน

สถานการณ์ในไทย

          สถิติข้อมูลคนพิการทางการเห็นที่มีบัตรประจำตัวคนพิการ
 ข้อมูล ณ วันที่ 1 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2559ที่มา : ข้อมูลประมวลผลจากฐานข้อมูลทะเบียนกลางคนพิการ กรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ



ด้านการศึกษา

                     .. 2485  นางสาวเจเนวีฟ คอลฟิลด์ เป็นสตรีตาบอดชาวอเมริกันที่ได้ริเริ่มก่อตั้งโรงเรียนสอนคนตาบอด กรุงเทพมหานครขึ้น พร้อมกับได้มีคณะบุคคลร่วมจัดตั้งมูลนิธิ ช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ 
การศึกษาสำหรับเยาวชนผู้พิการตาบอด มีโรงเรียนพิเศษถือกำเนิดขึ้น คือ โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ , โรงเรียนสอนคนตาบอดภาคใต้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ,โรงเรียนการศึกษาคนตาบอด จังหวัดขอนแก่น และโรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่ พัทยา .ชลบุรี

พ.ศ. 2533  จัดตั้ง " ศูนย์บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่มเด็กตาบอดและครอบครัว"  ที่วิทยาลัยครูสวนดุสิต เพื่อให้บริการแก่ครอบครัวที่มีลูกตาบอด และแก่เด็กตาบอดอายุ  0 - 7 ปี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกระตุ้นพัฒนาการเด็กตาบอด และส่งเสริมให้พ่อแม่สามารถเลี้ยงลูกตาบอดได้อย่างถูกวิธี เพื่อเป็นการขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กเหล่านี้ ให้สามารถเข้าเรียนร่วมกับเด็กปกติได้เร็วขึ้น



ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก


        ปัจจุบันอักษรเบรลล์มีการพัฒนาและแพร่หลายเป็นอย่างมากในสังคมไทย ที่เห็นได้เด่นชัด คือ ในด้านเทคโนโลยี หรือ ICT ซึ่งจะมีแป้นพิมพ์เพื่อคนตาบอดให้สามารถสื่อสารเข้าใจและอ่านออกเหมือนกับคนปกติได้ นอกจากนี้ยังมี

 ปุ่มกดลิฟท์ 

         


- โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีระบบการตั้งค่าสำหรับการใช้งานสำหรับคนพิการ 

- โปรแกรมอ่านหนังสือเดซี่บนโทรศัพท์เคลื่อนที่

- สหกรณ์บริการคนตาบอดแห่งประเทศไทย จำกัด ได้ผลิตบัตรวัดธนบัตร 

- บริเวณทางข้ามจะต้องปูพื้นผิวต่างสัมผัสนำทางให้ชี้ทิศที่ต้องเดินข้ามถนน


- บริการห้องสมุดคนตาบอดแห่งชาติ  โดยมี



หนังสือเสียงที่ให้บริการ
 หนังสือเสียงที่เป็นเทป และซีดี
 หนังสือทุกหมวดหนังสือทั่วไปหนังสืออ้างอิงหนังสือเรียน
 หนังสืออักษรเบรลล์
 หนังสือทั่วไป
 หนังสือเรียน
 หนังสืออ้างอิง

การให้บริการ

          บริการหนังสือเสียงให้ฟังภายในห้องสมุด
          บริการยืม-คืนหนังสือเสียง (ยืมได้ครั้งละ 5 เรื่อง ระยะเวลา 1 เดือน)
          บริการตอบคำถามและช่วยค้นคว้า
                บริการแนะนำหนังสือเสียงใหม่ที่น่าสนใจ
                บริการค้นคว้าและสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตด้วยคอมพิวเตอร์
                บริการทำสำเนาเทปและซีดี
                บริการรับงานอ่าน

            การจ้างงาน

ม.33 กำหนดให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการ และหน่วยงานของรัฐ รับคนพิการเข้าทำงานตามลักษณะของงานในสัดส่วนที่เหมาะสมในอัตรา 100 คนต่อ คนพิการ 1 คน (โดยนับจำนวนผู้ปฏิบัติงานเพื่อคำนวณจำนวนคนพิการที่ต้องรับเข้าทำงาน ณ วันที่ 1 ตุลาคม ของแต่ละปี)

ยกตัวอย่าง  กลุ่มบริษัท TRUE เปิดรับสมัครพนักงาน Call Center โดยกลุ่มบริษัท TRUE  ได้เปิดรับสมัครพนักงาน (พิการทางสายตา) เข้าร่วมงานในตำแหน่ง พนักงานลูกค้าสัมพันธ์ Call Center พนักงานลูกค้าสัมพันธ์ Full Time เป็นต้น





สถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่

          ญี่ปุ่นเขาให้ความสำคัญกับคนพิการในประเทศมากๆ เขาพยายามให้ผู้พิการดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองให้มากที่สุด ประเทศญี่ปุ่นให้คนพิการมีสิทธิทำงาน มีเงินบำเหน็จบำนาญ มีเงินค่าจ้างให้กับผู้ดูแลคนพิการ(คนพิการรุนแรงจำเป็นจะต้องมี) มีบัตรพิเศษคนพิการที่จะได้รับบริการก่อนคนปกติทั่วไปเมื่อไปใช้บริการตามสถานที่ต่างๆ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไม่ต้องห่วง ญี่ปุ่นมีพร้อมทุกอย่างเพื่อรองรับความสะดวกสบายสำหรับคนพิการ ตั้งแต่ทางลาด ห้องน้ำ รถเมล์ประจำทางสาธารณะ รถไฟฟ้า อิฐบล็อกนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตา(คนตาบอด) อักษรเบรลล์ตามสถานที่สาธารณะตามอาคาร คนพิการในญี่ปุ่นจึงสามารถออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านเหมือนกับคนปกติทั่วๆไป และมีการดำรงชีวิตที่อิสระ

อัตราผู้พิการในประเทศญี่ปุ่น

ผู้พิการในประเทศญี่ปุ่นมีประมาณ 6,000,000 คน ซึ่งแบ่งเป็นผู้พิการทางกาย และผู้พิการทางสมอง ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้พิการทางสายตาประมาณ 300,000 คน ในการจัดสวัสดิการของรัฐนั้น ประเทศญี่ปุ่นจะมีงบประมาณสำหรับผู้พิการ ซึ่งในแต่ละปีจะใช้งบ ประมาณ 150,000 ล้านเยน หรือ 6 หมื่นล้านบาท

ด้านการศึกษา

ระบบการศึกษาในญี่ปุ่นเป็นระบบ 6-3-3-4 นั่นคือประถมศึกษา 6 ปี มัธยมศึกษา 6 ปี และอุดมศึกษา 4 ปี การศึกษาภาคบังคับ 9 ปี สำหรับเด็กที่มีอายุ 6-15 ปี อัตราการส่งเด็กเข้าเรียนในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมต้น 100% มัธยมศึกษาตอนปลาย 95% อัตราผู้รู้หนังสือ 99% การศึกษาพิเศษเริ่มต้นขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อหนึ่งร้อยกว่าปีมาแล้ว มี การจัดตั้งโรงเรียนสำหรับคนตาบอด และคนหูหนวกขึ้นก่อนโรงเรียนประเภทอื่น แต่ไม่มีการบังคับให้เด็กพิการเข้าเรียน การศึกษาพิเศษเป็นการศึกษาบังคับในปี ค.ศ. 1948 สำหรับเด็กตาบอดและหูหนวก ต่อมามีการจัดตั้งโรงเรียนสำหรับเด็กสมองพิการ CP และโรงเรียนสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายขึ้นในเวลาต่อมา กระทรวงศึกษาธิการญี่ปุ่น ได้กำหนดให้มีหลักสูตรแห่งชาติสำหรับเด็กปกติ ในขณะเดียวกันก็มีคู่มือการใช้หลักสูตรสำหรับเด็กพิการที่เรียนอยู่ในโรงเรียนเฉพาะด้วย คู่มือเหล่านี้จะให้คำแนะนำและแนวทางในการสอนเด็กพิการตลอดจนเนื้อหาวิชาในหลักสูตรที่จะนำมาสอนเด็กพิการ

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวก

การเดินไปทางไหน ไม่ว่าศูนย์การค้า รถโดยสาร สถานที่ท่องเที่ยว จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการให้เห็นเสมอ เช่น ที่จอดรถเฉพาะคนพิการ ห้องน้ำสำหรับคนพิการ และทำทางเฉพาะให้คนพิการสามารถใช้รถเข็นผ่านไป และผ่านขึ้นที่สูงได้สะดวก ทางเท้าเกือบทุกแห่งจะทำให้คนตาบอดเดิน โดยทำแผ่นคอนกรีตชนิดพิเศษปูลงพื้น มีทั้งแบบเป็นเส้นๆ และเป็นปุ่ม แบบเป็นเส้น หมายถึงให้คนตาบอดเดินตรงไปได้เลย แต่พอถึงทางแยกจะมีปุ่ม คนตาบอดสามารถเลี้ยวไปตามทางที่ต้องการได้ เพราะเท้าที่สัมผัสกับพื้นจะรู้สึกได้ ที่สถานีรถไฟแต่ละแห่ง จะมีการปูพื้นที่ว่าให้คนตาบอดได้รู้ เป็นแนวยาวขนานไปกับรางรถไฟ เพื่อกันไม่ให้คนตาบอดเดินตกลงไปจนถูกรถไฟชนได้ นอกจากนี้ยังปูพื้นเป็นปุ่มตรงจุดที่ประตูรถไฟเปิดด้วย เพื่อให้คนตาบอดได้ยืนรออยู่ที่ประตูได้พอดี เนื่องจากญี่ปุ่นทำทางให้คนตาบอดเป็นผลดี จึงทำให้ทุกประเทศทั่วโลกจะทำทางที่ว่านี้ขึ้นมา

การติดตั้งพื้นผิวต่างสัมผัส

          ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกที่พัฒนาพื้นผิวต่างสัมผัสเมื่อปี 2508 และเริ่มใช้พื้นผิวต่างสัมผัสที่โอคายาม่าในปี 2510 และแพร่หลายเรื่อยมาพื้นผิวต่างสัมผัสจะกำหนดให้นูนขึ้นมาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร พื้นผิวต่างสัมผัสแบบเตือนอยู่ห่างจากสิ่งกีดขวาง (ถนน ทางข้าม ทางต่างระดับ ฯลฯ) ประมาณ 30 เซนติเมตร ไม่ไกลและไม่ใกล้เกินไป บริเวณทางข้ามจะต้องปูพื้นผิวต่างสัมผัสนำทางให้ชี้ทิศที่ต้องเดินข้ามถนน เพื่อช่วยให้ผู้พิการทางสายตารู้ทิศที่ต้องเดินเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง ที่ญี่ปุ่นมีการกำหนดมาตรฐานความสูงระหว่างขอบทางเท้าและถนนบริเวณทางข้ามไว้ที่ 2 เซนติเมตร1 (1 เซนติเมตรในบางพื้นที่) ซึ่งต่างกันเพียงพอให้ผู้พิการทางสายตารับรู้ขอบทางเท้ากับถนนได้ด้วยไม้เท้า





ตัวอย่างพื้นผิวต่างสำผัสในญี่ปุ่น

ราวบันได

มีความแตกต่างจากราวธรรมดา ตรงที่จะมีการดัดให้มีรูปร่างตามขั้นบันได หยึกหยักๆ ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงทางตรงราวบันไดก็จะตรงตามไปด้วย


ห้องสมุดคนตาบอด
ให้บริการฟรี มีทั้งหนังสือเสียงที่อ่านโดยอาสาสมัคร และหนังสืออักษรเบรลล์จำนวนมาก บริการทุกอย่าง สร้างขึ้นด้วยความเข้าใจ และต้องการเปิดโลกใบใหม่ที่สดใสกว่าเดิมให้กับคนพิการ โดยทางห้องสมุดมีการให้อาสาสมัครจัดพิมพ์หนังสืออักษรเบรลล์มาจากบ้านแล้วส่งมาให้ทางห้องสมุดจัดพิมพ์เป็นหนังสือได้



ห้องสมุดคนตาบอดในญี่ปุ่น

ห้องน้ำสำหรับคนพิการ

การที่จะไปสถานที่สาธารณะใดๆก็ตามในประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น สนามบิน แหล่งท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่Family Martนั้น ประเทศญี่ปุ่นก็จะมีห้องน้ำเพื่ออำนวยความสะดวกทั้งกับคนปกติและคนพิการ ภายในตัวห้องน้ำก็จะมีโถส้วมในระบบอัจฉริยะ ที่ผู้ใช้สามารถกำหนดได้ว่าต้องการให้ทำอะไร หรือแม้กระทั่งการเปิดเสียงเพลงเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงอันไม่พึงประสงค์ต่างๆก็ทำได้ นอกจากนี้ยังมีอักษรเบรลล์กำกับบนที่กดชักโครกด้วย สำหรับผู้พิการทางสายตานั้น ก็สามารถทราบถึงความแตกต่างของปุ่มกดแต่ละปุ่มได้เช่นกัน และสิ่งก่อสร้างต่างๆภายในห้องน้ำผู้พิการก็ยังเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้พิการทุกๆประเภทรวมถึงผู้สูงอายุก็สามารถใช้ห้องน้ำนี้ได้เช่นกัน




ห้องน้ำคนพิการในญี่ปุ่นที่ครอบคลุมทุกรูปแบบความพิการ

ลิฟท์

มีการทำอักษรเบรลล์กำกับไว้เพื่อให้ผู้พิการสามารถรับรู้ถึงชั้นที่ต้องการจะไปได้และสามารถใช้ลิฟท์ได้ตามลำพังเนื่องจากลิฟท์ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบให้เป็นกระจกทำให้คนข้างนอกสามารถมองเห็นผู้ที่อยู่ในลิฟท์ได้และสามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันหากเกิดปัญหา


ลิฟท์ในญี่ปุ่นนิยมทำเป็นกระจก


กล่องนม

กล่องนมขนาด 500 มล. ขึ้นไป ขอบด้านบนจะทำเว้าเป็นครึ่งวงกลมเล็กๆ เพื่อให้รู้ว่าในกล่องนี้เป็นนม ไม่ใช่เครื่องดื่มอย่างอื่น คนตาบอดก็สามารถหากล่องนมได้โดยง่ายเพียงแค่ใช้มือลูบ

กล่องนมขนาด500ml.จะมีขอบเว้า

ที่ซื้อตั๋วรถไฟ โทรศัพท์สาธารณะ และ ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ

ในบางสถานที่เครื่องต่างๆเหล่านี้จะมีอีกษรเบรลล์กำกับไว้ที่ปุ่มกดต่างๆเพื่อให้ผู้พิการทางสายตาได้ใช้อย่างสะดวกมากขึ้น


ตัวอย่างเครื่องซื้อตั๋วรถไฟ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ที่กระป๋องจะมีอักษรเบรลล์ติดอยู่เสมอ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการทางสายตา นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องดื่ม ก็เริ่มให้ ความสนใจเกี่ยวกับ การทำบรรจุภัณฑ์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคที่พิการทางการมองเห็น


 


ตัวอย่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบกระป๋อง

ขวดแชมพู


ลายนูนเป็นเส้น ๆ ที่ด้านข้างขวดหรือบนหัวกดขวดแชมพู เพื่อไม่ให้ผู้ใช้สับสนกับครีมนวดผม (เพราะแชมพูและครีมนวดผมยี่ห้อเดียวกันมักมีรูปทรงเดียวกัน ต่างกันเพียงแค่สี ทำให้สับสนได้ง่าย) ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงบรรจุภัณฑ์แบบขวดเพียงเท่านั้น บรรจุภัณฑ์ชนิดถุงเติมก็ยังมีลายเส้นไว้แบ่งแยกแชมพูกับครีมนวด ซึ่งแนวคิดนี้เกิดจากการที่มีผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นได้เสนอแนะไปยังบริษัทผู้ผลิต ในปีพ.ศ. 2534 บริษัท Kao จึงได้เริ่มผลิตขวดแชมพูให้มีลายนูนด้านข้าง เพื่อให้ผู้ใช้แยกแยะได้จากการสัมผัส และกลายมาเป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมนี้ในญี่ปุ่นต่อมา เรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะกับคนตาไม่ดี แต่ชาวต่างชาติที่อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกก็จะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน


                  

     


กฎหมายเกี่ยวกับการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อคนพิการ

การจ้างงาน

ญี่ปุ่นได้มีทำการสำรวจบริษัทที่จ้างงานคนพิการมากที่สุด และเผยแพร่ผลการวิจัยลงบนเว็บไซต์ Toyokeizai อันดับหนึ่งก็คือบริษัท FP Corporation ซึ่งประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งพนักงาน 16% เป็นคนพิการ

ตัวอย่างการจ้างงาน
Machiya Café Sawasawa เป็นอีกร้านที่พนักงาน 15 คนในร้านเป็นคนตาไม่ดี และบางคนตามองไม่เห็นเลย โดยร้านดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานท้องถิ่น พนักงานจะสามารถรับฟังออร์เดอร์ได้จากเครื่องฟัง เจ้าของร้านก็คือ Junya Kanamori อายุ 24 ปี ซึ่งสูญเสียการมองเห็นของตาขวาในสมัยเรียน เขาต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่าคนตาบอดก็สามารถทำอาชีพได้หลากหลายโดยเทคโนโลยีและการวางแผน

บริษัท FP Corporation ประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ซึ่งพนักงาน 16% เป็นคนพิการ ISFnet ตามมาเป็นที่สอง มีพนักงานที่พิการ 11.5% นอกจากนั้นยังมีบริษัท Hulic (บริษัทอสังหาริมทรัพย์) Dijet Industries (บริษัทวิศวกรรม) และ Apex Group ฯลฯ ในอดีตคนพิการมักจะทำงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะมากนัก แต่ในปัจจุบันคนพิการสามารถทำงานต้องใช้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น เช่น บัญชี ไอที พยาบาล ยังมีกฎที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2013 ว่าบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 50 คนจะต้องจ้างพนักงานพิการเป็นจำนวนอย่างน้อย 2%

เปรียบเทียบไทยและญี่ปุ่น




ตัวอย่างเปรียบเทียบ
ผลิตภัณฑ์แชมพู และครีมนวดของไทย : ญี่ปุ่น

ผลิตภัณฑ์แชมพู และครีมนวดผมของไทยจะมีลักษณะเรียบ และรูปทรงที่คล้ายคลึงกัน แตกต่างกันเพียงฝาของแชมพูหงายขึ้น ส่วนฝาของครีมนวดผมคว่ำลง ซึ่งเป็นการยากพอสมควรที่จะให้คนตาบอดแยกถึงความแตกต่างระหว่างแชมพูกับครีมนวดผม ถ้าไม่ใช่ของที่คุ้นเคย หรือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้อยู่ประจำ
ส่วนผลิตภัณฑ์แชมพู และครีมนวดผมของญี่ปุ่นนั้น ถ้าเป็นแชมพูจะมีลายนูนเป็นเส้นๆ ที่ข้างขวดและฝาหัวกด ส่วนครีมนวดผมจะเป็นขวดแบบเรียบๆ โดยผลิตภัณฑ์แชมพู และครีมนวดผมยี่ห้อเดียวกันจะมีรูปทรงที่เหมือนกัน นอกจากนี้บรรจุภัณฑ์ชนิดถุงเติมก็จะมีลายเส้นแบ่งแยกด้วย ซึ่งถือเป็นข้อแตกต่างอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจต่อรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ การทำเช่นนี้ก็เพื่อไม่ให้คนตาบอดเกิดความสับสน และสามารถเลือกซื้อของได้ด้วยตนเองอย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น


























ผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมของญี่ปุ่น



























                                       
                                                   ผลิตภัณฑ์แชมพูและครีมนวดผมของไทย


เทคโนโลยีสำหรับคนตาบอดในอนาคต

 แว่นตาอัจฉริยะ

               จะช่วยเกื้อหนุนให้คนที่พิการทางสายตา หรือตาบอด ให้สามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง โดยทางมหาวิทยาลัย Oxford และองค์กร Royal National Institute of Blind People (RNIB) ได้ออกไอเดียนี้ เพื่อเสนอขอทุนจากGoogle ซึ่งก็ทำสำเร็จด้วย โดยได้รับทุนไปมากถึง 500,000 ปอนด์ (27,029,632 บาท) เพื่อพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะนี้ให้สมบูรณ์ โดยมันจะประกอบไปด้วย กล้องวิดีโอ และไมโครชิพประมวลผล พร้อมทั้งโปรแกรมสร้างภาพจำลองที่ต่อเข้ากับระบบม่านตาโดยตรง ทั้งนี้มันจะเข้าไปประสานกับระบบประสาท ทำให้คนที่ตาบอดสามารถมองเห็นได้ แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก นักทดลองได้ลองนำไปทดสอบกับคนตาบอดแล้ว จำนวน 1000 คน ซึ่งก็ได้ผลตามที่คาดเอาไว้ ไม่แน่ว่า ในอนาคต เจ้าแว่นตาอันนี้อาจจะออกมาวางจำหน่ายให้ผู้คนที่มองไม่เห็น ได้รับโอกาสมองเห็นขึ้นอีกครั้งก็ได้



สมาร์ทโฟนอักษรเบรลล์

               ทุกวันนี้โทรศัพท์มือถือประเภทสมาร์ทโฟน ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของคนยุคใหม่ไปแล้ว หากจะเปรียบเป็นปัจจัยที่ 5 ของคนยุคใหม่ก็คงจะไม่ผิด นายสุมิต ดาการ์ นักนวัตกรรมชาวอินเดียร่วมกับทางสถาบัน Indian Institute of Technology Delhi, L V Prasad Eye Institute และเงินทุนจากบริษัท Rolex ที่ใช้เวลามากกว่า 3 ปี ในการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้การทำงานอักษรเบรลล์สำหรับผู้พิการทางสายตาได้สำเร็จ โดยใช้เทคโนโลยี Shape Memory Alloy ที่เป็นเทคโนโลยีที่สามารถทำให้โลหะสามารถกลับคืนสู่รูปร่างเดิมได้ ส่งผลให้หน้าจอโทรศัพท์เครื่องนี้ ไม่ได้ผลิตจากกระจกเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่เป็นหน้าจอสัมผัสแบบใหม่ที่ภายในประกอบด้วยเข็มโลหะเล็กๆ ที่สามารถทำให้หน้าจอด้านนอกนูนขึ้นมาเป็นอักษรเบรลล์ เมื่อมีข้อความ SMS อีเมลล์ หรือเมื่อผู้ใช้ท่องอินเตอร์เน็ตและเมื่อใช้งานเสร็จ หน้าจอก็จะกลับสู่สภาพเดิม นอกจากนี้ผู้พิการทางสายตายังสามารถใช้โทรศัพท์นี้สแกนข้อความต่างๆ ให้แปรเป็นอักษรเบรลล์ สามารถสัมผัสรูปทรงของภาพของสิ่งแวดล้อมโดยรอบบนหน้าจอโทรศัพท์ได้ เพียงยกโทรศัพท์ไปในทิศทางที่ต้องการ อีกทั้งยังสามารถอ่านข้อมูลแผนที่ เล่นเกม ฟังเพลง หรือพิมพ์ข้อความผ่านแป้นพิมพ์อักษรเบรลล์ได้อีกด้วย








e-reader อักษรเบรลล์

               ในยุคดิจิตอลเช่นนี้ หนังสืออักษรเบรลล์อาจจะล้าสมัยไป นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาเครื่อง e-reader เวอร์ชั่นอักษรเบรลล์อยู่ ซึ่งหน้าจอจะสามารถแสดงผลเป็นตัวอักษรเบรลล์นูนๆขึ้นมาได้ เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถทำให้หน้าจอนูนขึ้นมาเป็นตัวอักษรได้แล้ว เพียงแต่ปัญหาก็คือราคาของเทคโนโลยีนี้แพงมากจนไม่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ตัวนี้ใช้ระบบการอัดอากาศหรือของเหลวเพื่อดันให้ปุ่มพลาสติกเล็กๆบนหน้าจอนูนออกมาได้ และหากทำได้เสร็จสมบูรณ์คาดว่าจะสามารถผลิต e-reader ที่แสดงผลอักษรเบรลล์ได้ในราคาเครื่องละไม่ถึง 1,000$ และนอกจากจะแสดงผลเป็นตัวหนังสือแล้ว ยังสามารถแสดงผลในรูปแบบกราฟได้ด้วย




นโยบายที่เกี่ยวข้อง 


พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550

          มาตรา15  การกำหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ มาตรการ โครงการหรือวิธีปฏิบัติของหน่วยงานของรัฐองค์กรเอกชนหรือบุคคลใดในลักษณะเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการจะกระทำมิได้ การกระทำในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการตามวรรคหนึ่งให้ความหมายถึงการกระทำหรืองดเว้นกระทำการที่แม้จะมิได้มุ่งหมายให้เป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนพิการโดยตรงแต่ผลของการกระทำนั้นทำให้คนพิการต้องเสียสิทธิประโยชน์ที่ควรจะได้รับเพราะเหตุแห่งความพิการด้วย

          มาตรา16  คนพิการที่ได้รับหรือจะได้รับความเสียหายจากการกระทำในลักษณะที่เป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อคนพิการตามมาตรา 15 มีสิทธิร้องขอต่อคณะกรรมการให้มีคำสั่งเพิกถอนการกรทำหรือห้ามมิให้กระทำการนั้นได้คำสั่งของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด 


          มาตรา19  เพื่อประโยชน์ในการได้รับสิทธิตามมาตรา 20 คนพิการอาจยื่นคำขอมีบัตรประจำตัวคนพิการต่อนายทะเบียนกลางหรือนายทะเบียนจังหวัด ณ สำนักงานทะเบียนกลาง สำนักงานทะเบียนจังหวัดหรือสถานที่อื่นตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด


          มาตรา20 คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐดังต่อไปนี้


          - การศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติหรือแผนการศึกษาแห่งลาติตามความเหมาะสมในสถานศึกษาเฉพาะหรือในสถานศึกษาทั่วไปหรือการศึกษาทางเลือกหรอ การศึกษานอกระบบ โดยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกสื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาสำหรับคนพิการให้การสนับสนุนตามความเหมาะสม


          - การฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ การให้บริการที่มีมาตรฐาน การคุ้มครอง แรงงานมาตรการเพื่อการมีงานทำ ตลอดจนได้รับการส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระและบริการสื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกเทคโนโลยีหรือช่วยเหลืออื่นใดเพื่อการทำงานและประกอบอาชีพของคนพิการ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  ประกาศกำหนด


          - การยอมรับและการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมเศรษฐกิจและการเมืองอย่างเต็มที่ โดยมีประสิทธิภาพบนพื้นฐานแห่งความเท่าเทียมกับบุคคลทั่วไปตลอดจนได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการต่างๆที่จำเป็นสำหรับคนพิการ


          - สิทธิที่จะนำสัตว์นำทาง เครื่องมือหรืออุปกรณ์นำทางหรือเครื่องช่วยความพิการใดๆ ติดตัวไปในยานพาหนะหรือสถานที่ใดๆเพื่อประโยชน์ในการเดินทางและการได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะโดยได้รับการยกเว้นค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าเช่าเพิ่มเติมสำหรับสัตว์ เครื่องมือ อุปกรณ์หรือเครื่องช่วยความพิการดังกล่าว จัดเบี้ยสวัสดิการเบี้ยความพิการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนดในระเบียบ 


          มาตรา33 เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐรับคนพิการเข้าทำงานตามลักษณะของงานในอัตราส่วนที่เหมาะสมกับผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบการหรือหน่วยงานรัฐทั้งนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานออกกฎกระทรวงกำหนดจำนวนที่นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการและหน่วยงานของรัฐจะต้องรับคนพิการเข้าทำงาน

ข้อเสนอแนะ

          - ผู้ผลิตสินค้าควรคำนึงถึง และเล็งเห็นถึงความสำคัญของผู้พิการทางสายตาให้มากขึ้น โดยการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีอักษรเบรลล์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนตาบอดได้เลือกซื้อของที่จำเป็นต้องใช้อย่างเต็มที่ เนื่องจากผลิตภัณฑ์หลายๆยี่ห้อในห้าง หรือร้านสะดวกซื้อ ยังไม่ค่อยมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอักษรเบรลล์ จึงทำให้เกิดความลำบากต่อผู้พิการไม่สามารถเลือกซื้อสินค้าได้เอง เพราะเวลาที่ผู้พิการจะไปเลือกของใช้ก็จะต้องมีคนในครอบครัวไปคอยดูคอยหยิบให้ แต่สำหรับผู้พิการตาบอดบางคนที่อยากไปเดินคนเดียวก็อาจจะไม่กล้าถามหรือเกรงใจคนอื่นจึงทำให้ไม่ได้สินค้าที่ตัวเองต้องการ ที่อยากใช้ เป็นต้น
          - ทางภาครัฐ หรือเอกชนควรมีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาปรับใช้กับสิ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ระบบขนส่งมวลชน ให้มีเสียงบอกตามป้ายรถต่างๆ เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางของผู้พิการทางสายตา


นวัตกรรม

ป้ายอักษรเบรลล์หน้าห้องเพื่อคนตาบอด

เนื่องจากการหาห้องของคนตาบอดแต่ละที เป็นความลำบากอย่างหนึ่งที่ถ้าไม่ใช่สถานที่ที่คุ้นเคย หรือชำนาญทางคงเกิดการหลงทางแน่ๆ และยิ่งถ้ามาคนเดียว ไม่มีคนคอยช่วยยิ่งแล้วใหญ่ การถามทางแต่ละทีถ้าเจอคนช่วยเหลือนำทางไปก็ดีไป แต่สมัยนี้มักจะเจอพวกที่แล้งน้ำใจ เร่งรีบอยู่ตลอดเวลา แล้วเวลาถามทางถ้าเป็นคนปกติอย่างเราก็คงไม่เป็นปัญหามากเท่าไรกับคำว่า "ทางนั้นอะทางนั้น" "ตรงไปทางโน้น" "ห้องฟ้าๆที่ใหญ่ๆอะ" เราก็ยังสามารถทราบพิกัดได้ว่าห้องฟ้าๆ ต้องไปทางซ้ายนะ แต่กับคนตาบอดคุณอธิบายอย่างนั้นพวกเขาคงไม่เข้าใจคุณหรอกว่าทางโน้นอะ ทางไหน แล้วห้องฟ้าๆอะเป็นอย่างไร ดังนั้น กลุ่มเราจึงได้คิดค้นนวัตกรรมนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการช่วยคนตาบอดตามหาห้อง ทำให้เขามั่นใจว่านี่คือห้องอะไร เขามาถูกห้องหรือเปล่า และ เนื่องจากประตูห้องส่วนใหญ่ก็เหมือนๆกัน การติดอักษรเบรลล์นี้เราจึงเลือกที่จะติดแถวๆบนลูกบิดประตู เพราะก่อนจะเข้าห้องใดห้องหนึ่งทุกครั้ง สิ่งที่ทุกคนต้องจับก่อนเข้าห้องก็คือ ลูกบิดประตู เราจึงเลือกติดที่ประตูเหนือลูกบิดนิดหนึ่ง เพื่อที่คนตาบอดเขาจะได้สามารถหาสถานที่ได้ง่ายขึ้น ส่วนสถานที่ที่พวกเราเลือก ก็คือ ห้องภาคสังคมวิทยา ห้องน้ำหญิง ห้องน้ำชาย ชั้น5 ตึกคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เนื่องจาก ประการที่หนึ่ง เป็นสถานที่ที่ใกล้ๆตัวเรา การที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ควรเริ่มจากตัวเรา หรือรอบๆตัวเราก่อน ส่วนประการที่สอง กลุ่มเราเล็งเห็นว่าชั้น 5 ตึกคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ยังไม่มีอักษรเบรลล์สำหรับคนตาบอดเลย นอกจากลิฟต์ พวกเราจึงอยากเปลี่ยนแปลงพื้นที่นั้น ให้เป็นพื้นที่ที่เท่าเทียมกัน คนตาบอดก็สามารถเดินหาห้องที่จะมาติดต่อ ประสานงานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นและทราบว่าห้องไหนเป็นห้องไหน และประการที่สาม การทำป้ายอักษรเบรลล์มาติดหน้าห้องของพวกเราก็คงจะเกิดประโยชน์แก่คนตาบอดไม่มากก็น้อย อย่างน้อยๆก็ทำให้พวกเขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลง การใส่ใจ ความเท่าเทียม และการที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมมากยิ่งขึ้น

ภาพการทำนวัตกรรมของกลุ่มเรา



 

รวมรูปการทำงานของพวกเรา




คุณป้าเป็นผู้พิการทางสายตาที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคำผิดในหนังสืออักษรเบรลล์



 

   




เครื่องอ่านอักษรเบรลล์






เครื่องพิมพ์ดีดอักษรเบรลล์



เสลต



ทิ้งท้ายไปด้วยคลิปวิดีโอเล็กๆน้อยๆจากการลงพื้นที่ครั้งนี้นะคะ






ชาวต่างชาติที่บังเอิญเจอและพี่เจ้าหน้าที่ผู้พิการทางสายตาเขาคิดอย่างไรกับคนตาบอดและอักษรเบรลล์กันนะ???




วิดีโอแนะนำสถานที่และการลงพื้นที่




วิดีโอจำลองเหตุการจริงและการใช้งานนวัตกรรมของพวกเรา














ขอบคุณค๊าาาาาาาาาาา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น